วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

Shakugan no Shana - เนตรเพลิงชานะ ตามคำขอนะน้องนัท

.
.


Shakugan no Shana 1 - เนตรเพลิงชานะ

อันนี้ดูแบบออนไลน์นะ มีทั้งหมด 24 ตอน ของภาคหนึ่งนะครับ 

http://raamas.com/forum-viewthread-tid-5040-extra--highlight-Shakugan%20no%20Shana%20-page-1.html

เครดิต - dokshowby

 ต่อไปๆ


อันนี้แบบโหลดเอานะครับ แบ่งเป็นพาสๆเรียบร้อย
เครดิต - Guide_G
Shakugan no Shana เนตรเพลิง ชานะ ภาค1-2 พากย์ ไทย
อันนี้ดูแบบออนไลน์นะครับ มีทั้งภาค 1 และ 2

ปล.ถ้าเข้าได้ หรือ ไม่ได้ยังไงบอกด้วยเน้อ...อิอิ 

เลือกเอานะว่าอยากดูแบบไหน

ท้ายนี้ขอ ขอบคุณทุกๆๆเครดิต นะครับ..อิอิ



.
.

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

ลองหน่อยๆๆ

.
.


อยากจะให้ทุกคนที่เขามาช่วยกันคลิกให้หน่อยนะครับ...อิอิ

1.ลิงค์แรกนะครับ
http://writer.dek-d.com/pop-teenzaa/writer/view.php?id=677428




2. ลองค์ที่สองนะึครับ..อิอิ
 http://writer.dek-d.com/pop-teenzaa/writer/view.php?id=674682




3. อันนี้ลอง อีกอันนะครับ

http://feeds.feedburner.com/Teenzaa24



ครับ...หลังจากคลิกเข้าไปแล้วนะครับ
มันจะขึ้นหน้าต่างใหม่ของเว็บที่เราคลิกไปนะครับ
ทิ้งไว้สัก 5 นาทีครับ แล้วค่อยปิดนะครับ

ขอคลิกทุกๆๆวันเลยนะครับ วันละรั้งก็ได้ครับ หลายครั้งก็ดีเยี่ยมครับ
แต่อย่าถี่เกิณนะครับ เดวเขาจับได้..อิอิ


.
.

วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2554

บอกเล่าสรงน้ำพระพุทธรูปประวัติ ตำนานวันสงกรานต์ นางสงกรานต์ปี2554

วันนี้ 14 เมษา
อยุ่ในช่วงสงกรานต์อยุ่เลยนะครับ
วันนี้เลย สรงน้ำพระพุทธรูปในบ้าน
มีทั้งหมด สาม องค์ด้วยกัน
คือ พระพุทธชินสีห์  พระพุทธนิรโรคันธรายชัยวัฒน์จตุรทิศ 
พระครูนิเทศธรรมวิจัย (น่าจะ 3 องค์นี้นะครับถ้าจำไม่ผิด)
จากนั้นก็สงกรานต์ รดน้ำ พ่อแ่ม่ ซะหน่อย
จะได้ชุ่มช่ำทั้งบ้านอยู่เย็นเป็นสุข

พระพุทธชินสีห์

ตกดึกๆ 2 ทุ่มเศษ เลี้ยงฉลองสงกรานต์กันเล่นๆที่บ้านป้าสักนิด 
ฉลองกันในเครือๆๆญาติ
มีร้องเพลงกันด้วย
ได้ร้องไปเพลงสองเพลง มั่วๆๆไปงั้นแหล่ะ
พึงกลับมาถึงเมื่อกี้เอง
ประมาณเที่ยงคืนเกือบตีหนึ่งง่านะ



ไหนๆๆสงกรานต์ทั้งทีเลยหาประวัติมาให้อ่านกันหน่อยนึ่ง...อิอิ




ประวัติ ตำนานวันสงกรานต์

มีท่านเศรษฐีผู้หนึ่งไม่มีบุตรแต่ต้องการบุตรมาก ด้วยถูกนักเลงสุราที่บ้านใกล้กันนั้นกล่าวคำหยาบช้าต่อเศรษฐี ท่านเศรษฐีจึงกล่าวถามว่า "เหตุใดท่านจึง กล่าวดูถูกเราผู้มีสมบัติมาก" นักเลงสุราตอบกลับว่า "ถึงแม้ท่านเป็นผู้มีสมบัติมาก แต่ท่านก็ไม่มีบุตร เมื่อเสียชีวิตแล้ว สมบัติเหล่านี้ก็สูญเปล่า เรานั้นมีบุตร ย่อมประเสริฐกว่า" ท่านเศรษฐีจึงได้จัดพิธีบวงสรวงขอบุตรจากพระอาทิตย์ และพระจันทร์ รอนานสามปีก็มิได้เกิดบุตร เมื่ออาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ ท่านเศรษฐีจึงพาบริวารไปบวงสรวงขอบุตรจากพระไทร พระไทรมีความเมตตาสงสารเศรษฐีผู้นี้ จึงได้ขึ้นไปบนสวรรค์ทูลขอบุตรจากพระอินทร์ให้แก่เศรษฐี ผู้นั้น พระอินทร์จึงให้ธรรมบาลกุมารเทวบุตรลงมาเกิดเป็นบุตรของท่านเศรษฐี
          เมื่อภรรยาของท่านเศรษฐีคลอดบุตร ท่านเศรษฐีได้ปลูกปราสาทเจ็ดชั้นให้อยู่ใต้ต้นไทรริมฝั่งแม่น้ำ และตั้งชื่อให้ว่าธรรมบาลกุมารธรรมบาลกุมารนี้เป็น เด็กที่มีปัญญาเฉลียวฉลาดอย่างมาก เรียนรู้ไตรเทพจบเมื่ออายุ ๗ ขวบอีกทั้งยังสามารถเรียนรู้ภาษานกได้อีก ความดังกล่าวได้ล่วงรู้ถึงท้าวกบิลพรหม ท่านจึงต้องการที่จะทดสอบปัญญาของธรรมบาลกุมาร ท้าวกบิลพรหมจึงได้เสด็จลงมายังโลกมนุษย์ ถามปัญหาธรรมบาลกุมาร ๓ ข้อคือ


          ข้อที่ ๑ เช้าราศีสถิตอยู่แห่งใด
          ข้อที่ ๒ เที่ยงราศีสถิตอยู่แห่งใด
          ข้อที่ ๓ ค่ำราศีสถิตอยู่แห่งใด

          และตกลงกันว่า ถ้าธรรมกุมารสามารถตอบปัญหา ๓ ข้อนี้ได้ ภายใน ๗ วัน จะตัดเศียรของตนบูชาธรรมบาลกุมาร แต่ถ้าธรรมบาลกุมารไม่สามารถตอบปัญหาได้ ธรรมบาลกุมารต้องตัดศีรษะของตนบูชาท้าวกบิลพรหมเช่นกัน

          เวลาล่วงเลยไปถึง ๖ วัน ธรรมบาลกุมารก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ ด้วยความกลัวอาญาท้าวกบิลพรหม ธรรมบาลกุมาร จึงได้หนีไปแอบซ่อนอยู่ใต้ต้นตาลและบนต้นตาลนั้นมีนกอินทรี ๒ ตัว ผัวเมียทำรังอยู่นกอินทรีทั้งสองได้สนทนากันอยู่ในเรื่องการออกไปหากินในวัน พรุ่งนี้ นางนกอินทรี : "พรุ่งนี้เราจะไปหากินที่ไหนกันดี "นกอินทรีตัวผู้ : "พรุ่งนี้เราไม่ต้องออกไปหากินไกลหรอก ด้วยพรุ่งนี้ธรรมบาลกุมารจะต้องตัดศีรษะบูชาท้าวกบิลพรหม เนื่องจากตอบปัญหาไม่ได้"
นางนกอินทรี : "น่าสงสารกุมารน้อยยิ่งนัก ท้าวกบิลพรหมก็ช่างถามปัญหาที่มนุษย์เกินจะตอบได้"
นกอินทรีรู้สึกหมั่นไส้นางนกอินทรีจึงได้บอกถึงคำตอบที่ท้าวกบิลพรหมถามธรรมบาลกุมารให้นางนกอินทรีได้รู้
นก อินทรีตัวผู้ : "ราศีแห่งมนุษย์นั้นจะสถิตอยู่ที่ร่างกายต่างวาระกัน คือ เวลาเช้าจะสถิตอยู่ที่หน้า มนุษย์จึงต้องล้างหน้า เวลาเที่ยงราศีสถิตอยู่ที่อก มนุษย์จึงต้องปะพรมน้ำที่หน้าอก และเวลาค่ำสถิตอยู่ที่เท้า มนุษย์จึงต้องล้างเท้า จึงจะพ้นอัปรีย์จัญไรทั้งปวง"


          ธรรมบาลกุมารเมื่อได้ยินดังนั้น ก็ได้จดจำคำตอบและนำไปบอกแก่ท้าวกบิลพรหม ท้าวกบิลพรหมจึงจำต้องตัดเศียรของตนบูชาธรรมบาลกุมาร แต่เศียรของท้าวกบิลพรหมมีพิษมาก คือ ถ้าตัดแล้วตั้งไว้บนแผ่นดิน แผ่นดินก็จะลุกเป็นไฟ ถ้าโยนขึ้นสู่ท้องฟ้าฝนก็จะตกไม่ถูกต้องตามฤดูกาล และถ้าทิ้งลงมหาสมุทรน้ำก็จะเหือดแห้ง ท้าวกบิลพรหมจึงรับสั่งเรียกธิดาทั้ง ๗ เพื่อให้นำเศียรของท้าวกบิลพรหมไปแห่ประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุ ๖๐ นาที แล้วจึงนำไปเก็บไว้ในมณฑปถ้ำธุลีเขาไกรลาศ ครั้นครบกำหนด ๓๖๕ วัน (โลกสมมุติว่าเป็น ๑ปี) เป็นสงกรานต์ ซึ่งหมายถึงขึ้นปีใหม่นั้นเอง นางสงกรานต์ก็จะต้องนำเศียรของท้าวกบิลพรหมแห่ประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุ
เป็นประจำทุกปี


นางสงกรานต์ปี2554 นั่งช้าง-ถือปืน พยากรณ์ปีนี้ดุ!

กิริณีเทวี นางสงกรานต์ ปี 2554

เผยนางสงกรานต์ปี 54 

ชื่อ กิริณีเทวี นั่งหลังช้าง มือซ้ายถือปืน 

พยากรณ์ปีนี้ดุ เกิดเหตุเภทภัยทั่วประเทศ

          น.ส.ทัศชล เทพกำปนาท นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ปฏิทินหลวงวันสงกรานต์ ปี 2554 ปีใหม่ไทยปีนี้ตรงกับปีเถาะ นางสงกรานต์ มีนามว่า "กิริณี เทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่ว-งา พระหัตถ์ขวาทรงขอ พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จนั่งมาเหนือหลังกุญชร (ช้าง) เป็นพาหนะ ซึ่งจากคำทำนายค่อนไปทางร้ายมากกว่าดี

          โดยวันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 5 เวลา 13 นาฬิกา 25 นาที 25 วินาที และวันที่ 16 เมษายน เวลา 17 นาฬิกา 31 นาที 12 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น 1373 วันอาทิตย์เป็นโลกาวินาศ น้ำฝนปีนี้ วันพุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 600 ห่า นาคให้น้ำ 5 ตัว เกณฑ์ธัญญาหาร ผลาหาร มัจฉมังษาหาร จะบริบูรณ์ เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีปถวี (ดิน) น้ำงามพอดี

          ทั้งนี้ คำทำนายตามตำราตรุษสงกรานต์ของ นายสมบัติ พลายน้อย ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2553 ระบุว่า นางสงกรานต์กิริณีเทวี นั่งมาบนหลังช้างซึ่งถือเป็นสัตว์ใหญ่ เป็นมงคลช่วยขับไล่สิ่งร้าย ๆ ให้ออกไปได้ และยังทัดดอกมณฑาเป็นดอกไม้ทิพย์อยู่บนสวรรค์ คนไทยโบราณเชื่อว่าจะช่วยพ้นวิกฤติจากหนักให้เป็นเบา ส่วนภักษาหารที่เป็นถั่วงา แสดงว่าพืชผลข้าวปลาอาหารยังมีความสมบูรณ์อยู่ ส่วนคำทำนายที่ว่าทหารจะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู ก็น่าจะแสดงถึงความสงบสุขของบ้านเมืองในปีนี้ด้วย

          ขณะที่ วันมหาสงกรานต์ 2554 ตรงกับวันพฤหัสบดี วันเนาตรงกับวันศุกร์ และวันเถลิงศกตรงกับวันเสาร์ รวมคำทำนายว่า จะ เกิดเหตุเภทภัยต่าง ๆ ความเจ็บไข้ ผู้คนล้มตาย แร้งกาจะเป็นโรค สัตว์ป่าจะเป็นอันตราย แต่แม่หม้ายจะมีลาภ และบรรดาทหารทั้งปวงจะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู

          ส่วนคำทำนายของล้านนา ระบุว่า ปีนี้ฝนจะตกเสมอต้นเสมอปลายตามฤดูกาล ผู้เป็นเจ้าเป็นใหญ่จักมีอันตราย ช้างม้าวัวควายจักตายมากนัก ไพร่ราษฎรจักอยู่ดีมีสุข ขุนใหญ่ ปุโรหิต พระสงฆ์จักเป็นทุกข์ คนเกิดวันศุกร์มีเคราะห์ คนเกิดวันอาทิตย์มีโชค

 

เครดิต - http://songkran.kapook.com/ 

วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2554

อัพเดท สงกรานต์ เอาบุญมาฝาก

ช่วงนี้ก็สงกรานต์แล้วนะครับ
ช่วงนี้ไม่ได้อัพการ์ตูนไรลงเว็บเลย
พอดีลงมาบ้านที่จ.พัทลุง



ภาคใต้ง่านะครับ


เน็ตที่บ้านมันช้า
ไม่เหมือนที่บางกะปิ
เน็ต6แมกเร็วกว่าง่านะ
เลยขอให้กลับไปกทม.ก่อน
แล้วค่อยอัพการ์ตูนลงเว็บให้นะครับ
อิอิ




เมื่อวันที่ 6หรือ7เมษานี้หล่ะครับ
ผมได้มีโอกาสไปทำบุญที่วัดมา
เป็นการทำบุญให้บรรพบุรุษด้วยง่านะ


เขาเรียกว่า ทำบุญบัว


แล้วก็เอาปิ่นโตไปถวายด้วยครับ
อาหารแยกต่างหากนอกปิ่นโตก็มีทำไปครับ
มีญาติๆไปกันเยอะพอสมครว



เมื่อวันที่13เมษา
วันสงกรานต์นั่นแหล่ะครับ
ได้ไปสรงน้ำพระ


แล้ว ไปทำบุญ ในวัดมาครับ


เลยอยากจะเอาบุญมาฝากทุกๆๆคนเลยนะครับ
สาธุ สาธุ สาธุ นะครับ
ส่วนใหญ่ผมเล่นเฟสบุ้คง่านะครับ
ไม่ค่อยได้อัพเท่าไร..อิอิ
 ลิงค์เฟสๆๆ http://www.facebook.com/profile.php?id=100001861343975

ปล.ขอบคุณภาพทุกๆๆภาพ เครดิต จากการหาใน google นะครับ

อัพเดทซะหน่อย+สงกรานต์+เอาบุญมาฝาก

ช่วงนี้สงกรานต์
เลยกลับบ้านที่พัทลุง
ภาคใต้ง่านะ
ทำให้ไม่ค่อยได้อัพไรเลย
พอดีที่บ้านเน็ตมันช้า
ไม่เหมือนที่ห้องที่บางกะปิเน็ต6แมกง่านะ
ตอนนี้มีการ์ตูนอัพใหม่หลายเรื่องอยากจะอัพลงเว็บเหมือนกัน
แต่ติดที่ว่าเน็ตช้านี้หล่ะ
เดวกลับไปกทม.เมื่อไรจะรีบอัพลงเว็บครับ
อิอิ





วันที่13เมษา
วันสงกรานต์
ไปสรงน้ำพระกับไปทำบุญที่วัดมา
ใกล้ๆๆบ้านนี้เอง
ไงก็เอาบุญมาฝากทุกๆๆคนเลยนะครับ
สาธุ สาธุ สาธุ นะครับ
ติดตามรายละเอียดได้ที่เฟสบุ้คนะครับ

วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554

อัพเดทสถานะการณ์รถทัวร์ลงใต้ +ผ่อนผัน

ขอเล่าย้อนความไปเมื่อวันที่4เมษาก่อนนะครับ
ไอเราเนื่องเพราะกลัวไม่มีรถทัวร์กลับ
เพราะลองโทรไปถามทางรถไฟแล้วก็ไม่วิ่งวิ่งแค่ไฃยา
เลยเป็นกังวัลอยุ่บ้าง
เลยรีบไปสายใต้ตั้งแต่เช้าตื่นตี5แล้วนั่งแท็กซี่จากลาดพร้าว140ไปสายใต้ใหม่ ประมาณ30นาทีกว่าๆ
ค่ารถแท็กซี่ก็200บาท
ไปถึงสายใต้ก็ผิดหวังเล็กน้อยเนื่องจากรถทัวร์ยังไม่มีการวิ่งลงใต้เลย
แต่ก็รอต่อๆๆไปจน9โมงเช้ากว่าๆๆ
เห็นทรัพย์ไพศาลเอาป้่าย'วันนี้รถไม่วิ่ง'ออกเราเลยรีบไปถามว่ารถวิ่งได้แล้วหรอ




เขาก็บอกว่าได้แล้วเขาถามว่าเอาวันไหนเราบอกวันนี้จะรีบไปผ่อนผันวันที่5
เขาบอกว่าเหลือแต่ทุ่ม10นาทีนะ เอาไหม เรารีบเลยเอาทันที วี32 7ร้อยเศษๆ
ก็นั่งรอ นอนรออยุ่ที่สายใต้แหล่ะ
เพราะถ้าไปกลับก็เสียเวลา
แล้วก็เสียค่ารถด้วย
อีกอย่างต้องรอดูสถานการณ์เผื่อรถวิ่งไม่ได้อีก
แต่ท้ายที่สุดก็วิ่งได้
แต่ตอนดึกคืนที่นั่งรถกลับใต้
อันนี้ถามคนนั่งข้างๆนะว่าเมื่อคืนเกิดไรขึ้นเพราะว่ารถเช้าแล้วยังไม่ถึงพัทลุงเลย
เขาก็บอกว่า'เมื่อคืนรถวิ่งไปสุราดแล้วสะพานขาดวิ่งไม่ได้เลยต้องย้อนกลับไปอ้อมเส้นทางไประนองแทนรถเลยช้าไปกันใหญ่'
พอถึงพัทลุงก็9.30นาทีกว่าแล้ว
คิดในใหญ่ตายละหว่า...
เขาให้ไปผ่อนผัน7.00เช้า
นี้เลยมาหลายชั่วโมงแล้วทำไงดี
แต่พอไปถึง
ลองถามเขาแล้วก็บอกว่าพวกผ่อนผันนะ
เรียกหลังเที่ยง
เลยลองถามพี่ที่เคยผ่อนผันว่าต้องใช้ไรบ้าง
เขาก็บอกว่า 'มี3อย่างคือ - สด.9 กับ หมายเรียก และ บัตรประชาชน หรือบัตรที่ทางราชการออกให้แล้วมีรุปเราติดอยุ่ พอ'
ก็รอจนบ่ายแล้วเขาก็เรื่มเรียกพวกผ่อนผัน เรียกพวกผ่อนผันปีก่อนๆๆก่อนแล้วสุดท้ายถึงจะเรียก
พวกผ่อนผันปีแรก(ก็คือเราเอง)
ก็นั่งรอไปเรื่อย พอได้หมายเรียกไรเสร็จก็ถามเขาว่ากลับบ้านได้ยังก็เขาบอกกลับได้เลยก็เลลยกลับ
ตอนนั้นประมาณ18.00น.แล้วนะ มีพวกสละสิทธิผ่อนผันก็มี จับฉากหลัง18.00น.อีกแหน่ะ
เหนื่อยมากขอบอก
แถมเจ้าหน้าที่ก็ล่าช้า
ไม่รู็จักกระฉับเวลาเอาเสียเลย
บางทีก็เรียกชื่อเบากันเหนื่อยเกินไม่ไหวๆๆ
แต่ก็ดีที่ผ่อนผันได้
ปีหน้าก็ต้องมาอีกวันที่5เมษา

+0+ ปล. +0+
ปัจจุบัน รถทัวร์สามารถวิ่งลงได้ได้ปกติแล้ว ตั้งแต่วสันที่5 เมษาเป็นต้นไปนะครับ (อันนี้ไทยรูทส่งเมล์มาบอก..ฮิอิ) ถ้าเกิดไรขึ้นมาอีกก็ติดตามข่าวได้ที่ไทยรูท(ตามลิงค์ได้ที่หัวข้อก่อนหน้านี้นะครับ)

วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2554

อัพเดทสถานะการณ์รถทัวร์ลงใต้

วันที่2เมษาที่ผ่านมา
ที่จองตั๋วไวเทุ่มสิบนาที ต้องคืนตั๋วเพราะถนนปิด
เนื่องจากเกิดอุทกภัย

วันที่3เมษาโทรไปเช็คสายรถแต่เช้า ประมาณ6โมงเศษๆ
โทรไปทรัพท์ไพศาลไม่มีคนรับสายเลย
ขี้เกียจกันจริงๆๆนะพวกนี้
โทรไปปิยะทัวร์ เขาบอกว่างดวิ่งรถทุกเวลาและทุกสายที่ลงใต้
โทรไปหาบขส.เขาก็บอกว่าไม่มีลงไปพัทลุง
ลงไปได้แค่ชุมพร

เมื่อกี้โทรไปถามเส้นทางใหม่ว่าถนนเปิดยัง
ก็ไม่มีใครรับเลยง่า
จะได้กลับบ้านไปผ่อนผันป่ะเนี้ย
เหอะๆๆ
ตอนนี้ที่พอจะพึ่งพาได้ก็มีแต่



ที่พอยังอัพเดทสถานนะการณ์บ้าง 
 
''วันนี้ช่วงเย็น ทรัพย์ไพศาลทัวร์ 
งดเดินรถทุกเที่ยวเวลานะคะ
ประเมินสถานการณ์วันต่อวัน ผู้โดยสารรับเงินคืนได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วค่ะ''
 
''ปิยะทัวร์ งดเดินรถทุกเที่ยวเวลา 
วันนี้ ที่ 3 เมษายน 54 เส้นทาง กรุงเทพฯ - หาดใหญ่ 
และ หาดใหญ่ - กรุงเทพฯ ทุกเที่ยวเวลาค่ะ 
ลูกค้าสามารถรับเงินคืนได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วปิยะทัวร์นะ''
 
 เฮ้อโทรศัพท์มือถือเราก็ดันมาพังอีกเนี้ย
เฮ้อๆๆๆๆ อยากซื้อใหม่ๆ
เศร้าเว้ย.....

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

จองทัวร์+ลงซัม

วันนี้พยามตื่นแต่เช้า
เพื่อจะได้มีตั๋วรถทัวร์กลับบ้าน
นั่งรถตู้ที่แฮปปี้แลนด์ไป45บาท
รถติดมาก
ใช้เวลาไปประมาณ1ชม.20นาที
ที่สำคัญรถตู้ไปสายใต้ใหม่เนี้ย ผ่านสนามหลวงด้วยแหล่ะ
ใช้เวลา 1 ชม.เศษๆ
ไอเพื่อนเราที่ว่ารถเต็มๆๆ
ไม่จริงเล้ย....
มีที่ว่างอีกเยอะ
เลยเลือก ป.1 ที่นั่งที่23 วันที่2-04-2554 แทน 619บาท
เสียค่ารถไปกลับ 90 บาท
เลยถามเขาว่ามีจองออนไลน์ม่ะ
เขาก็บอกว่ามี


1.จองตั๋วที่ www.thairoute.com (ไทยรูท ดอทคอม) 


หรือโทร 02 269 6999
2.แล้วไปจ่ายเงินที่ 7-Eleven 
3.แล้วมารับตั๋ว ขึ้นรถได้ทันที
พอไปซื้อตั๋วแปบๆๆ5นาทีก็นั่งรถกลับมาลงซัมที่ม.ราม 
ลงไป4ตัว12หน่วย 500บาท ร้อนมาก
ขอบคุณ ปอน นิค วัฒน์ ที่หาตัวลงให้ ขอบใจจริงๆๆเว้ย...

FeedBurner